tag:blogger.com,1999:blog-60243501601521123012024-02-21T08:16:39.917+07:00ป.ปลาน่ารักกระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.comBlogger14125tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-10793893005140533702008-09-10T09:58:00.003+07:002008-09-10T10:05:53.161+07:00ปลามะเขือเทศ<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-526U-1gxEaqKYQTFIMHj_enT-CvLOnlAUYwToootdM1jHtinI8oJY-R3i7k5I9JDFGc0U3sbs3Ds0oL34wxzs0TGGw7OsjZKtPrG8npfCngmz6tBDbQHfxSOAnz8B9TQjnHVy3NjJ7pW/s1600-h/à¸à¸¥à¸²à¸¡à¸°à¹à¸à¸·à¸­à¹à¸à¸¨.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5244223420742287570" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 265px; CURSOR: hand; HEIGHT: 160px" height="138" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-526U-1gxEaqKYQTFIMHj_enT-CvLOnlAUYwToootdM1jHtinI8oJY-R3i7k5I9JDFGc0U3sbs3Ds0oL34wxzs0TGGw7OsjZKtPrG8npfCngmz6tBDbQHfxSOAnz8B9TQjnHVy3NjJ7pW/s320/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8.jpg" width="268" border="0" /></a><br /><div> ชื่ออังกฤษ : Red Clownfish </div><br /><div> ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tomato Clown </div><br /><div> วงศ์ : POMACENTRIDAE<br /></div><br /><div>ปลามะเขือเทศ ลักษณะลำตัวปลาขนาดเล็กลำตัวแบนทางด้านข้าง รูปร่างโดยทั่วไปคล้ายคลึง กับปลาอินเดียนแดง ความยาวประมาณ 8 เซนติเมตร พื้นผิวลำตัว สีส้มด้านหลังตามีแถบสีขาวคาดตามขวาง 1 แถบชัดเจน และไม่จางหาย ไปแม้จะเจริญเต็มที่ ปลาชนิดนี้อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลในบริเวณแนวปะการังทางฝั่ง มหาสมุทรอินเดีย </div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-36458778242392589932008-09-01T09:07:00.007+07:002008-09-01T09:27:10.472+07:00ปลาตะพัด หรือปลาอะโรวาน่า<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjyb5lBY8_W5dTqgl7usyQY8daivUAv69HNZii-X1DWHxftjs8G03kKdgJJNlITggCa5hvHJDI1NRcJ0VIXWV3OhocoejZQ2RhQTrLk01UFMRozdx5ZdbDJ-aC9ixNbtCbdzZbUBcS70Uhu/s1600-h/11.jpg"></a><br /><div><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiUOQi3Ax-PQoK-P3BZjMI7cAK1xpv7bASnm863N6wHNcDuRVJuh-xw10y7xQGRiRu1C6lXPdykSQOJNk6-vu2nEACOj-0v0qQCEREzjD2SQP-RGrb4JfnEKIIBRAwnA58xysMMFakjN28y/s1600-h/img01.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5240870904812585842" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" height="174" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhhKg1t_Kvt0JEelCY7ZdAfLXLoHDKf4NYBRd54wbErPsqBbJ3HFNOqtEuHOwoz0RxdospjFUdQktC7H05abAUgEoxhs-zR6xEuvW68I1hHuG5ljHMNwHVCVbHTItL3MjdHEmdsBuoQgLwx/s320/01.jpg" width="187" border="0" /></a><br /><div><div>ในวงการปลาสวยงาม หากจะกล่าวถึงปลาโบราณที่มีความสวยงาม หากยากและมีราคาแพงแล้ว คงหนีไม่พ้นที่จะต้องกล่าวถึง ปลาตะพัด ปลามังกรหรือปลาอะโรวาร่า Scleropages formosus (Muller & Schlegel) ซึ่งเป็นปลาที่อยู่ในความนิยมตลอดกาล ทั้งนี้เพราะความสวยงาม ความสง่างามและความเชื่อที่ว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภ ส่งผลให้มีผู้นิยมเลี้ยงปลาสวยงามหลายท่านได้พยายามเสาะแสวงหา เพื่อให้ได้ปลาชนิดนี้มาประดับบารมี หรือเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา ปลาตะพัดเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว อายุยืน และมีความคุ้นเคยกับผู้เลี้ยงเป็นอย่างดีปลาตะพัดจะพบได้ในแหล่งน้ำเพียงไม่กี่แห่งในโลก และจากการศึกษาซากฟอสซิล (fossil) ของปลาดังกล่าว ปรากฏว่า ซากปลาที่ค้นพบมีอายุประมาณ 60 ล้านปีล่วงมาแล้ว โดยมีผู้เชี่ยวชาญบางท่านได้สันนิษฐานว่า ปลาในตระกูลนี้อาจเคยมีชีวิตอยู่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปตามแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วโลก แต่เนื่องจากความผันแปรทางธรรมชาติ จึงทำให้ปลาชนิดนี้ได้สูญหายไปจากซีกโลกบางส่วน (สุรศักดิ์,2531)</div><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiUOQi3Ax-PQoK-P3BZjMI7cAK1xpv7bASnm863N6wHNcDuRVJuh-xw10y7xQGRiRu1C6lXPdykSQOJNk6-vu2nEACOj-0v0qQCEREzjD2SQP-RGrb4JfnEKIIBRAwnA58xysMMFakjN28y/s1600-h/img01.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5240871231485050866" style="CURSOR: hand" height="91" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiUOQi3Ax-PQoK-P3BZjMI7cAK1xpv7bASnm863N6wHNcDuRVJuh-xw10y7xQGRiRu1C6lXPdykSQOJNk6-vu2nEACOj-0v0qQCEREzjD2SQP-RGrb4JfnEKIIBRAwnA58xysMMFakjN28y/s320/img01.jpg" width="230" border="0" /></a><br /><br /><div>ปลาตะพัด หรือปลาอะโรวาน่า พบแร่กระจายอยู่ทั่วไป โดยมีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันและผันแปรไปตามแหล่งที่พบปลาตะพัดได้ถูกจัดอยู่ในครอบครัว Osteoglossidae ซึ่งปลาในครอบครัวนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 สกุล (genus)โดยทั้ง 4 สกุลนี้จะมีปลาอยู่ 7 ชนิด (species) ซึ่งพอจะแยกออกได้เป็น 3 กลุ่ม </div><br /><div>การเลี้ยงปลาตะพัดปลาตะพัด สามารถเลี้ยงได้ทั้งในตู้กระจก ถังไฟเบอร์กลาส บ่อคอนกรีตและบ่อดิน โดยทั่วไปแล้วถ้าเลี้ยงจำนวนไม่มากนัก ผู้เลี้ยงมักนิยมทำเป็นตู้กระจกขนาดใหญ่ไว้ในบ้านภายในตู้มีระบบกรองน้ำ ระบบให้แสงสว่าง และระบบให้อากาศอยู่ตลอดเวลา แต่ละตู้ไม่ควรจะปล่อยปลาลงเลี้ยงหลายตัว เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งปลาจะกัดกันเองส่งผลให้ถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นโดยทั่วไปจึงมักจะนิยมเลี้ยงเพียงตู้ละตัวเท่านั้น เพื่อลดการเสี่ยงต่อการสูญเสียปลาที่หากยากและมีราคาแพง อย่างไรก็ตามหากผู้เลี้ยงมีเวลาดูแลปลาสม่ำเสมอ จะทำให้ปลามีความคุ้นเคย และรู้จักทักทายจะว่ายเข้าหาเมื่อผู้เลี้ยงเข้าไปใกล้ ปลาตะพัดเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว กินอาหารได้หลายชนิด ศูนย์พัฒนาประมงน้ำจืดสุราษฏร์ธานี ได้ทดลองศึกษาถึงชนิดของอาหารเหมาะสมต่อการเลี้ยงปลาตะพัดสีทองในตู้กระจก โดยเปรียบเทียบอาหาร 4 ชนิด คือ ลูกปลาตะเพียนขาว ลูกกบ-เขียด จิ้งจก และแมลงสาบ หลังจากทดลองเลี้ยงนานหนึ่งปี พบว่า อัตราการเจริญเติบโตของปลาตะพัดที่เลี้ยงด้วยอาหารทั้ง 4 ชนิด ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (เทียนทอง และคณะ,2536) แต่จากการสังเกต พบว่า การเลี้ยงปลาตะพัดที่มีการเปลี่ยนอาหารอยู่เสมอ โดยสลับให้กินหลาย ๆ อย่าง (ดังกล่าวข้างต้น) จะส่งผลให้ปลาตะพัดกินอาหารได้มากขึ้น ได้รับธาตุอาหารสมบูรณ์และส่งผลให้การเจริญเติบโตดีกว่าการเลี้ยงด้วยอาหารเพียงชนิดเดียว</div><br /><br /><br /><br /><div></div></div></div></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-24453573112912137482008-08-30T17:07:00.004+07:002008-08-30T17:30:03.894+07:00ปลาหมอสี<div><br /><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjfix1EwnN90HxqG7lYuwRu8kJnX3u2VcmqLKLBx-iOVyThegKaCaJPOtASKrT3ch9tBQYBCT9zeN5H1cI9VGq9GuSzDVQVlfhq7eUXa-8vGPOO-BecqLeIaqp-EpIWl3kMWXsTnf7BjXb7/s1600-h/20061214185550.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5240255042532070050" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 216px; CURSOR: hand; HEIGHT: 159px" height="240" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjfix1EwnN90HxqG7lYuwRu8kJnX3u2VcmqLKLBx-iOVyThegKaCaJPOtASKrT3ch9tBQYBCT9zeN5H1cI9VGq9GuSzDVQVlfhq7eUXa-8vGPOO-BecqLeIaqp-EpIWl3kMWXsTnf7BjXb7/s320/20061214185550.jpg" width="244" border="0" /></a> ปลาหมอตัวแรกที่นำเข้ามาชื่อแจ็คเดมเซย์ต่อมาก็คือออสก้าเป็นปลาหมออีกชนิดหนึ่งเช่นกัน ส่วนประวัติปลาหมอสีที่นำเข้ามานั้นอยู่ในช่วงประมาณ 30 ปี ขึ้นไปจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่วางไข่อยู่กับพื้น หรือซิคลาโซนา(ciclasona) มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกา คือแถบอเมริกากลาง อเมริกาใต้ บราซิล และลุ่มน้ำอะเมซอนเป็นหลักใหญ่ซึ่งได้แก่ ปลาเซวาลุ่มทอง ที่กำลังนิยมอยู่ตอนนี้ นอกจากนี้ยังมีพวกซิลสไปลุ่ม และปลาหมอมาคูลิคัวด้า กลุ่มที่อมไข่ไว้ในปาก มาจากทะเลสาปอัฟริกาหรืออัฟริกาใต้ ซึ่งส่วนใหญ่ ปลาที่นิยมเลี้ยงก้จะมาจากทะเลสาปมาลาวีแถว ๆ แถบแทนซาเนียและก็มีพวกแซ พวกซาอี ซึ่งเป็นพวกนิยมจับปลาหมอและก็พวกนี้อีกเช่นกันที่เอาออกมาขายสู่ตลาดโลก ชื่อไทย ปลาออสก้า ชื่ออังกฤษ Oscar , Velvet Cichlid ถิ่นที่อยู่อาศัย เป็นปลาที่มีถิ่นดั้งเดิมอยู่ที่ประเทศบราซิล พบในแม่น้ำอเมซอน พารานา ริโอเนโกร รูปร่างลักษณะ ปลาออสก้า เป็นปลาลำตัวกว้างลึก ปัจจุบันปลาออสก้าที่เลี้ยงในเมืองไทย ทั้งปลาออสก้าลายเสือและปลาออสก้าสีทอง ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ผสมขึ้นได้เอง ในเมืองไทย ส่วนปลาออสก้าพันธุ์ดั้งเดิมนั้นมีสีค่อนข้างดำ มีเกล็ดสีแดงอยู่เพียงไม่กี่เกล็ด ปลาออสก้าลายเสือ มีลำตัวสีเขียวปนเทาลายข้างตัว เป็นสีส้ม เมื่อมีการให้อาหารอย่างดี คัดเลือกและผสมพันธุ์เรื่อยๆ มา ก็จะได้ปลาออสก้าลายแดง และเพิ่มขึ้นเป็นออสก้าสีทอง และเผือก อุปนิสัย ปลาออสก้าเป็นปลาที่แข็งแรง กินเก่ง นิสัยค่อนข้างดุ </div><div> </div><div> </div><div> </div><div><br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhhB2d0Lya2J0Xv1i-ixXhSgyppKAduDz-yYz7F4qF7sG8TE7tHyQtZVJ0kAGN66trN1inJ8oeKZwzREdhO9s8B3EAsicDmeU-3D7IP4JfcRdeiSpFwJe7cQ5WHkVhMTs9norpLNlpVtri6/s1600-h/443.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5240255623596725266" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 224px; CURSOR: hand; HEIGHT: 160px" height="162" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhhB2d0Lya2J0Xv1i-ixXhSgyppKAduDz-yYz7F4qF7sG8TE7tHyQtZVJ0kAGN66trN1inJ8oeKZwzREdhO9s8B3EAsicDmeU-3D7IP4JfcRdeiSpFwJe7cQ5WHkVhMTs9norpLNlpVtri6/s320/443.jpg" width="320" border="0" /></a>แหล่งกำเนิด แหล่งกำเนิด (Origin) ปลาหมอสีเป็นปลาน้ำจืดที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ ทะเลสาบ หนองบึ่ง คูคลองต่างๆ โดยมีแหล่งกำเนิดจาก 2 กลุ่มใหญ่ๆ ในโลก คือ<br />กลุ่ม New world ปลาหมอสีที่พบในส่วนของโลกใหม่ ได้แก่ แถบอเมริกากลาง -ใต้ เช่น แท๊กซัสตอนใต้ ลงมาจนถึงอาเจนตินาของอเมริกาใต้ ,คอสตาริกา ,นิการากัว , บราซิล, ลุ่มแม่น้ำอเมซ่อน, เกาะมาดากาสการ์ , เกาะศรีลังการ, ชายฝั่งทะเลตอนใต้ของอินเดีย ฯลฯ<br />กลุ่ม Old world ปลาหมอสีที่พบในส่วนของโลกเก่า ได้แก่ แถบแอฟริกาใต้, ในทะเลสาบมาลาวี(Lake Malawi ), ทะเลสาบแทนกานยิกา (Lake Tanganyika ), ทะเลสาบวิคตอเลีย(Lake Victoria), แถบแทนซาเนีย ฯลฯ ทะเลสาบมาลาวี ( Lake Malawi ) ทะเลสาบมาลาวี คือแหล่งน้ำและปลา ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติหลักของชาวมาลาวี มีปลามากมายหลากหลายพันธ์ ที่อาศัยอยู่ใน ทะเลสาบแห่งนี้</div></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-40828748292944609932008-08-30T11:41:00.004+07:002008-08-30T11:56:06.901+07:00ปลากัด<div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjuIheoarAv7V30qwe10wEnuyEIKOVz3_ekFV28csc7i1-kz375dpky6akHNMVGu2FKjGf6LdcxU2vgxgeoNUJGgD4ypDT3xJaIWP5vowTybB83IIUXct-pMKjkVHeWJlmrBa5CFCH8QJ8P/s1600-h/100_1455.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5240169135989514306" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 189px; CURSOR: hand; HEIGHT: 153px" height="242" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjuIheoarAv7V30qwe10wEnuyEIKOVz3_ekFV28csc7i1-kz375dpky6akHNMVGu2FKjGf6LdcxU2vgxgeoNUJGgD4ypDT3xJaIWP5vowTybB83IIUXct-pMKjkVHeWJlmrBa5CFCH8QJ8P/s320/100_1455.jpg" width="227" border="0" /></a><br /><br /><div>ปลากัด เป็นปลาพื้นเมืองของไทย พบแพร่กระจายทั่วไปทุกภาคของประเทศไทยลักษณะที่อยู่อาศัย : อาศัยอยู่ในอ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ หนองบึง แอ่งน้ำ ลำคลอง ฯลฯ ในบริเวณที่มีระดับน้ำตื้นๆ น้ำค่อนข้างใส น้ำนิ่งหรือไหลเอื่อยๆ มีพันธุ์ไม้น้ำขึ้นประปราย ชอบว่ายน้ำช้าๆ บริเวณผิวน้ำ</div><div>หรือที่ชาวต่างประเทศรู้จักเป็นอย่างดีในชื่อภาษาอังกฤษว่า Fighting Fish นั้นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Betta splendens Regan เป็นปลาเพื้อนเมืองของประเทศไทย เราพบพร่กระจายทั่วไปทุกภาคของประเทศ สำหรับในต่างประเทศมีที่ มาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา และจีน เป็นต้น.... </div><div> </div><div> </div><div><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjPD2yLvsNTkA_KAXVdGT0hXmde9WhwcpnK9coctx3TyabD9Luvq3C-oXR67P1kBN4CL-wh9Ilg5SeaJYvzGltxE9C49temIuxQ0O7qUVrYqYnW_ZGlqLm-7JoMJuNNhWZwYwwfvZzMR5Kt/s1600-h/DSCF3584_resize.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5240169399217791922" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 185px; CURSOR: hand; HEIGHT: 145px" height="240" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjPD2yLvsNTkA_KAXVdGT0hXmde9WhwcpnK9coctx3TyabD9Luvq3C-oXR67P1kBN4CL-wh9Ilg5SeaJYvzGltxE9C49temIuxQ0O7qUVrYqYnW_ZGlqLm-7JoMJuNNhWZwYwwfvZzMR5Kt/s320/DSCF3584_resize.jpg" width="238" border="0" /></a><br />วิธีการเพาะพันธุ์</div><br /><div>นำขวดปลาเพศผู้และเมียมาวางติดกัน วิธีนี้เรียว่า เทียบคู่ ซึ่งควรจะเป็นบริเวณที่ปราศจากสิ่งรบกวน จะทำให้ปลา ตกใจ ใข้เวลาเทียบคู่ประมาณ 3-10 วัน จากนั้นนำปลาเพศผู้และเมียใล่ลงในภาชนะที่เตรียมไว้สำหรับผสมพันธุ์ เช่น ขันพลาสติก โหลแก้ว อ่างดิน ใส่น้ำให้มีระดับ 5 เซนติเมตร เพื่อมิให้ตัวผู้เหนื่อยมากเกินไปในขณะที่ลำเลียงไข่ของตัวเมียไปไว้ที่รัง ซึ่งจะทำให้ ไข่เสียหายน้อย แล้วใส่พรรณไม้น้ำที่นิยมใช้ ได้แก่ สาหร่ายพุงชะโด สาหร่ายหางกระรอก จอก ใบผักตบชวา เป็นต้น ควรจะมีฝาปิด ภาชนะที่ผสมพันธุ์ ตัวเมียจะเริ่มก่อหวดติดกับพรรณไม้น้ำ หลังจากสร้างหวอดเสร็จตัวผู้จะพองตีวกางครีบ ไล่ต้อนตัวเมียให้ไป อยู่ใต้หวอด ขณะที่ตัวเมียลอยขึ้นมาบิรเวณผิวน้ำ ปลาตีวผู้จะรัดตัวเมียตรงบริเวณช่องอวัยวะเพศ จากนั้นไข่ก็จะหลุดออกมา พร้อมกับตัวผู้จะฉีดน้ำเชื้อเข้าผสม และปลาตัวผู้าจะตามลงไปใช้ปากดูดอมไข่ไว้ ว่ายน้ำขึ้นไปพ่นไข่เข้าไปไว้ในฟองอากาศจนกว่า จะหมด เมื่อสิ้นสุดการวางไข่ปลาตัวผู้จะทำหน้าที่ดูแลไข่เพียงลำพัง และจะไล่ต้อนตัวเมียไปอยู่ที่มุมภาชนะ หลังจากนั้นรีบนำปลา ตัวเมียออกจากภาชนะ เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาตัวเมียกินไข่ ปล่อยให้ปลาตัวผู้ดูแลไข่ 2 วัน จึงแยกตัวผู้ออก ต้องระวังการกระแทก ที่จะทำให้ไข่ได้รับการเสียหาย</div></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-84727453932432815242008-08-16T15:47:00.002+07:002008-08-16T15:52:35.888+07:00ปลาโนรี<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg4LScqCWL2j9CQ-fXqfgyhMY9uMEjhV0CAkOIopguVm0VnBzUb0bVLAOCGhNmx5Ex50zGWCriPtQ13I4ZrJe4GH5fJh8FdOvvDAb-coKDkASEkZiLaQMql4UM_trsAmN7-TujmHoMOe_7l/s1600-h/1.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5235035329482561538" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 199px; CURSOR: hand; HEIGHT: 153px" height="162" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg4LScqCWL2j9CQ-fXqfgyhMY9uMEjhV0CAkOIopguVm0VnBzUb0bVLAOCGhNmx5Ex50zGWCriPtQ13I4ZrJe4GH5fJh8FdOvvDAb-coKDkASEkZiLaQMql4UM_trsAmN7-TujmHoMOe_7l/s320/1.jpg" width="220" border="0" /></a><br /><div>ลำตัวแบนและกว้าง แนวสันโค้งสูงชันขึ้นไปมาก หัวเล็ก จะงอยปากทู่ยื่นออกไปเพียงเล็กน้อย ปากเล็ก ครีบหลังมีก้านครีบแข็ง 11 – 12 อัน โดยอันที่ 4 ยาวออกไปเป็นเส้นเลยปลายหาง ครีบหูแหลม ครีบทวารยื่นออกไปเป็นรูปสามเหลี่ยมยอดมน ครีบหางปลายตัดโค้งงอเล็กน้อย ขนาดยาวประมาณ 20 เซนติเมตร พื้นผิวลำตัวสีมุก มีแถบสีดำอมม่วงคาดตามขวางผ่านลำตัว แถบแรกพาดจากก้านครีบแข็ง 3 อันแรก ผ่านครีบหูหลังไปยังครีบท้องและก้านแข็งของครีบท้อง แถบที่สองพาดจากก้านแข็งอันที่ 5 – 8 โค้งลงมาจรดส่วนท้ายของครีบทวาร เหนือจะงอยปากมีรอยแต้มสีดำ 1 รอบ บนหน้าผากระหว่างตาทั้งสองมีแถบสีม่วงดำ พาดขวาง ส่วนครีบต่างๆ มีสีเหลือง ปลาโนรีอาศัยอยู่ตามเกาะแก่งและแนวปะการัง </div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-33539011780809723352008-08-12T16:03:00.000+07:002008-08-12T16:09:24.931+07:00กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-72676627179755916422008-08-04T08:28:00.006+07:002008-08-04T08:42:20.348+07:00ปลาเทวดา<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTEqRsjWSAMsM779_ZL-zbcNnNj5rUbR2LUfNR_6bqXG478R14ZW7Avumi-J2Lg3FEixeQ5iS5XuLHW22nuAEyt7gdZxnrjM45EExrKEuFP-c_M322go1w-_1WsJH2QTtP47t3S4YcVcE7/s1600-h/8.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5230471754550729778" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 176px; CURSOR: hand; HEIGHT: 124px; TEXT-ALIGN: center" height="86" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTEqRsjWSAMsM779_ZL-zbcNnNj5rUbR2LUfNR_6bqXG478R14ZW7Avumi-J2Lg3FEixeQ5iS5XuLHW22nuAEyt7gdZxnrjM45EExrKEuFP-c_M322go1w-_1WsJH2QTtP47t3S4YcVcE7/s320/8.jpg" width="176" border="0" /></a><br /><div><div><div>ปลาเทวดา (Angel fish) เป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมที่อเมริกาใต้ แถบลุ่มน้ำโอริโนโก ลุ่มน้ำอเมซอน เป็นปลาที่มีรูปร่างแบนข้าง ลำตัวกว้างลึก ครีบหลังเป็นกระโดงสูงอยู่ค่อนไปทางด้านหาง ครีบด้านท้องก็ทำนองเดียวกัน ครีบหางบางเป็นแพนใหญ่ รูปทรงเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉากรมฝีปากค่อนข้างเล็ก ดวงตากลมโต ปลาเทวดาเป้นปลาแปลก บางครั้งรักสงบ ชอบอยู่นิ่ง ๆ ไม่ตื่นตกใจง่าย แต่ในทางตรงกันข้ามในบางครั้งก็มีนิสัยก้าวร้าว หวาดระแวงและขี้ตื่นตกใจ ปลาเทวดาบางตัวเลี้ยงให้คุ้นได้ง่าย แต่บางตัวคุ้นเคยยากมีแต่ความหวาดระแวง ตื่นตกใจและไม่ยอมกินอาหารและเป็นปลาที่ค่ินข้างใจเสาะ เสียชีวิตง่าย ถ้าการเอาใจใส่ดูแลไม่ดีพอ น้ำในตู้เสียหรือผิดปกติไปจากเดิมปลาจะแสดงอาการไม่ปกติทันที ในต่างประเทศเคยใช้วิธีหย่อนอ่างปลาลงไปในขุมเหมืองลึก ๆ ถ้าในขุมเหมืองมีแก๊สพิษ เมื่อดึงขึ้นมาปลาก็จะตาย โดยทั่วไปปลาเทวดาเป็นปลารักสงบ พอจะปล่อยเลี้ยงรวมกันหลาย ๆ ตัวในตู้กระจกที่กว้างขวางพอและมีพันธุ์ไม้น้ำสำหรับเป็นที่หลบอาศัยบ้าง ปลาเทวดาเมื่อจับคู่กันแม่ปลาจะวางไข่ติดกับวัสดุในน้ำเช่น ใบไม้ รากไม้หรือแผ่นหิน การเพาะเลี้ยงลูกปลาเทวดาต้องใช้ฝีมือพอสมควร สำหรับอาหารที่ให้ได้แก่ ไรน้ำ ลูกน้ำ เนื้อกุ้งสับ และอาหารเม็ดสำเร็จรูป เป็นต้น</div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgEKZWFEX5TetAYplumSvvEtmjq0WTPVDzzOm3P1jgvqxLTfmMb1dp49vhLngfO5kNbG9bs6vUL0FQ-Ve0YjfPUF2Fv0ka87tvi5hr6EqklYC1ejEIZdV2Mt5UF7chNChqWeJsnRjRf1paT/s1600-h/3.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5230470926531745442" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; CURSOR: hand" height="126" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgEKZWFEX5TetAYplumSvvEtmjq0WTPVDzzOm3P1jgvqxLTfmMb1dp49vhLngfO5kNbG9bs6vUL0FQ-Ve0YjfPUF2Fv0ka87tvi5hr6EqklYC1ejEIZdV2Mt5UF7chNChqWeJsnRjRf1paT/s320/3.jpg" width="129" border="0" /></a><br /><br /><br /><br /><div>เป็นปลาแบนข้าง ลำตัวมีความกว้างลึก ครีบหลังกระโดงสูงอยู่ค่อนไปทางด้านหาง ครีบหางบางเป็นแผ่นใหญ่ รูปร่างของปลาเทวดาเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก ดวงตาโตกลม </div></div></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-50669799831663326362008-07-27T16:04:00.003+07:002008-07-27T16:24:10.938+07:00ปลาผีเสื้อพระจันทร์<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhzTcX82bROcU8NEGd_wbYdsljjcNynoZKf6zxF0WFgjH6LqcdBdZdi7TJL1K6ECKwfy5o7yR5MVoHMMgMpPqQVYu-6Jvz1crzMpHQZyRhw5AJv1V6ILe9T1lGjpI6uzMq1wb6KkF1bOo5d/s1600-h/09.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5227622161391733682" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhzTcX82bROcU8NEGd_wbYdsljjcNynoZKf6zxF0WFgjH6LqcdBdZdi7TJL1K6ECKwfy5o7yR5MVoHMMgMpPqQVYu-6Jvz1crzMpHQZyRhw5AJv1V6ILe9T1lGjpI6uzMq1wb6KkF1bOo5d/s320/09.jpg" border="0" /></a><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgLdqACZKHrprT8WCoFQvi3jtzVhHrsOGGVxqLqWzjZseVus0J0D3YSQfuAYw1Nb1W2XcUo_qOOHRmAMs8i7Mdn0xvJo77T3Wurxi7pxj922qb8o0kyMSoyEFDBu7vFyJmg_QBuuxBvzQbX/s1600-h/09.jpg"></a><br /><br /><div>ปลาผีเสื้อพระจันทร์ มีลำตัวแบนรูปไข่ แนวสันหลังโค้งมากกว่าด้านท้องหน้าผากลาดชัน ตาอยู่กึ่งกลางของหัว จะงอยปากนูนขึ้นมาเล็กน้อยและยาวกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของตา ปากเล็กตรง ริมฝีปากค่อนข้างหนา ขากรรไกรทั้งบนและล่างยาวเกือบเท่ากัน ฟันบนขากรรไกรเป็นขนแข็ง ๆ คล้ายขนแปรง ซี่เหงือกมี 13 ซี่ เกล็ดบนหัว บนครีบหลัง บนครีบทวารและครีบหางเล็กมาก เกล็ดบนเส้นข้างตัวมี 38-40 เกล็ด เกล็ดเหนือเส้นข้างตัวมี 7-8 เกล็ด เกล็ดใต้เส้นข้างตัวมี 16-17 เกล็ด ครีบหลังโค้งมนประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 12 อัน และก้านครีบอ่อน 23-25 ก้าน ฐานของก้านครีบแข็งของครีบหลังยาวกว่าฐานของก้านครีบอ่อน ครีบอกมนค่อนข้างสั้นกว่าส่วนหัว ครีบเอวปลายแหลมและสั้นกว่าครีบอกเล็กน้อยแต่ยาวรูก้น</div><br /><br /><div>พื้นสีตลอดหัว ลำตัวและครีบมีสีเหลือง มีแถบสีดำพาดขวางจากด้านบนของหัวผ่านตาลงมาสุดตอนเหนือของกระดูกหน้าแก้ม บนลำตัวมีรอยขีดเป็นทางสีส้มหรือแดงพาดเฉียงขนานขึ้นไปตามแถวของเกล็ด บริเวณตอนหน้าลำตัวด้านบนเหนือครีบอกมีรอยแต้มสีดำเป็นผืนใหญ่คล้ายรูปสามเหลี่ยมเชื่อมโยงกับแถบสีดำซึ่งพาดเป็นทางยาวโค้งไปตามฐานของครีบหลังไปสุดที่ฐานของครีบหาง แถบสีดำที่ฐานของครีบหางนี้ในปลาขนาดเล็กจะเป็นรอยแต้มกลมสีดำเท่านั้น</div></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-42257827635559702282008-07-21T08:50:00.004+07:002008-07-21T09:10:27.490+07:00ปลาการ์ตูนแดง<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiP5J7VXeX1gvJckgC74G6Qh-WMR_W7VDwF__LFxO_uThYvH586wybn2q6Aa3Gm-y_PzzFNiBcZgVEx0yxqF9k8eNig1PVg_Q3MgN4ZxdnkF3ZQ6WPNdiiuTtR3ds4zgbmnPtE78xlRTkrl/s1600-h/ane3.gif"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5225282182764936882" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiP5J7VXeX1gvJckgC74G6Qh-WMR_W7VDwF__LFxO_uThYvH586wybn2q6Aa3Gm-y_PzzFNiBcZgVEx0yxqF9k8eNig1PVg_Q3MgN4ZxdnkF3ZQ6WPNdiiuTtR3ds4zgbmnPtE78xlRTkrl/s320/ane3.gif" border="0" /></a><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjGrLCYEfrjGiqtQo-SbvXuvFnx130KKdCUn2FzyMJrXPWfuJ-hVJpxqlob9pD866ezwllkmy237gvIFvM_VPdO5_qx8iXiubPKT6fzlgzcslrB3-KuqAZlP2gT2p_vj4yQqZVu-v54YrLw/s1600-h/ane3.gif"></a><br /><br /><div>ปลาการ์ตูนแก้มหนาม หรือการ์ตูนทอง หรือการ์ตูนแดง เป็นปลาชนิดเดียวกัน (species) ลำตัวมีสีส้มแดง เมื่ออายุมากขึ้นสีจะแดงมากขึ้นจนเป็นสีแดงเข้มอมดำ ลำตัวมีแถบสีขาวพาดขวางลำตัว 3 แถบ บริเวณหลังตา กลางลำตัว และโคนหาง ลักษณะเด่นของปลาชนิดนี้คือมีหนามแหลมบริเวณใต้ตา ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 16 ซ.ม. พบได้ตามรอบนอกของแนวปะการัง และส่วนที่เป็นแนวปะการังลาดชัน มักอาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลชนิด Entacmaea quadricolorในตลาดซื้อขายปลาสวยงามปลาชนิดนี้ถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ตามลักษณะสี คือ</div><br /><br /><div>1. ปลาการ์ตูนทอง ลักษณะคล้ายกับที่กล่าวมาแต่แถบสีขาวที่พาดขวางลำตัวเป็นสีขาวอมเหลืองทอง และสีแดงบริเวณลำตัวจะเข้มกว่าปลาการ์ตูนแดง ปลาการ์ตูนทองเป็นปลาที่มีราคาแพงเป็นลำดับต้น ๆ ในกลุ่มปลาการ์ตูน</div><br /><br /><div>2. ปลาการ์ตูนแดง คล้ายกับปลาการ์ตูนทองแต่แถบที่สีขาวที่พาดขวางลำตัวจะเป็นสีขาว ปลาการ์ตูนแดงจะซื้อขายกันในราคาที่ถูกกว่าปลาการ์ตูนทองประมาณ 1 เท่าตัว</div></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-22245944439553641332008-07-16T15:56:00.003+07:002008-07-16T16:16:27.849+07:00ปลาคาร์ฟ<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiRVr_hUWk9p2O-0K35uxQjyRlTAK9zXdTdpMLQw7PBylgO4DjsK5VDW4IFyOfEF3YCTBVcq5a3RaRIribbcYl_-ddJUJmNZdMiIpFHJIdNfPPvi8Co71rV12bJ1OrwlD1NVXEh3x3UIRzi/s1600-h/carp_3.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5223538194414795250" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiRVr_hUWk9p2O-0K35uxQjyRlTAK9zXdTdpMLQw7PBylgO4DjsK5VDW4IFyOfEF3YCTBVcq5a3RaRIribbcYl_-ddJUJmNZdMiIpFHJIdNfPPvi8Co71rV12bJ1OrwlD1NVXEh3x3UIRzi/s320/carp_3.jpg" border="0" /></a><br /><div>ปลา่แฟนซีคาร์ฟ (Fancy Carp) เป็นชื่อที่ใช้เรียกปลาในสกุล (Genus)เดียวกับปลาใน (Crucian Carp) ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Cyprinus Carpio line เป็นปลาน้ำจืดที่มีแหล่งดั้งเดิมอยู่ในบริเวณประเทศอิหร่านในปัจจุบันเป็นเวลาที่สามารถปรับตัวดำรงชีวิตอยู่ในแหล่งน้ำจืด ที่มีอุณภูมิที่แตกต่างกันได้ดีมาก แม้ในสภาพอากาศร้อน ปลาชนิดนี้ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศได้ จึงแพร่ขยายพันธุ์ออกไปได้ทั่วโลก</div><br /><div></div><br /><div>ในยุคต้นๆชาวจีนนับเป็นชนชาติแรกที่รู้จักปลาไนซึ่งเป็นต้นตระักูลของปลาแฟนซีคาร์ฟมาเลี้ยงไว้เพื่อบริโภคเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2,000 ปีล่วงมาแล้ว โดยชาวจีนเรียกปลาไนว่า หลีจื้อ หรือ หลีโกวง ปลาไนน่าจะมีอิทธิพลต่อชาวจีนเป็นอันมาก ซึ่งจะพบหลักฐานอันเก่าแก่ที่สุดของปลาไนปรากฏในภาพเขียนของจีนสมัยราชวงศ์์โจว</div><br /><div></div><br /><div>เดิมทีปลาไนตามแหล่งน้ำธรรมชาติจะมีเพียงสีดำ สีเทาดำ หรือสีน้ำตาลดำเท่านั้นเมื่อราวปี พ.ศ. 808 -859 ปรากฏว่ามีปลาไนบางตัวกลายพันธุ์เป็นสีส้ม ชาวจีนจึงนิยมนำมาเลี้ยงเพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อชมความสวยงามจนเป็นที่แพร่หลายต่อมาราวศตวรรษที่ 18 ที่เมืองโอจิยา(Ojiya) ซึ่งอยู่ในจังหวัดนิกาตะ(Neigate) ในปัจจุบันชาวญี่ปุ่นในเมืองนี้ได้นำปลาไนมาเลี้ยงไว้ในบ้านเพื่อประกอบเป็นอาหาร เนื่องจากชาวญุ่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่มีอาชีพทำนาตามภูเขาสูงในชนบท ซึ่งมีการคมนาคมที่ไม่สะดวกในยามที่มีหิมะตกชาวญี่ปุ่นไม่สามารถเดินทางออกนอกบ้านไปทำมาหากินได้</div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-79666315255831189002008-07-07T09:04:00.003+07:002008-07-07T09:31:07.859+07:00ปลาทองปอมปอน (Pompon)<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjnS5SeKV_H-zQiNwEoZOOxzrCsZ-j6gbceTj5cKSB_mLqHaU9wk1C-6eFqzDn1wv5n8mgn-GvNqhNv0Jq21TsIhyvAR8nGhHtvDLUo85qM9PV1DkzzhnWOh1pPFK-Yyu-ZVdY_M58p6tUR/s1600-h/41.gif"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5220094024859450770" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjnS5SeKV_H-zQiNwEoZOOxzrCsZ-j6gbceTj5cKSB_mLqHaU9wk1C-6eFqzDn1wv5n8mgn-GvNqhNv0Jq21TsIhyvAR8nGhHtvDLUo85qM9PV1DkzzhnWOh1pPFK-Yyu-ZVdY_M58p6tUR/s320/41.gif" border="0" /></a><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj6C7FaGpgOEZdy2DiPyVCT0mo9b9Y4UW38nnLsRLRtD0nYmDdJgD_N_uN_C4uKiqQlizvW7PjA9y4eqf-eSf4FxgtSz36rMRcQLnIVXcg7rnNqjaj8SP_-xTNB22WhLssoEFfaGjHwRMDk/s1600-h/41.gif"></a><br /><br /><p>ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศแรกที่เพาะพันธุ์ได้ มีลักษณะลำตัวสั้น มองจากด้านบนจะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคล้ายปลาทองหัวสิงห์แต่แตกต่างกันตรงส่วนหัว โดยผนังกั้นจมูกของปลาทองปอมปอนจะขยายเจริญเติบโตออกมาข้างนอกเป็นพู่ 2 ข้างทำให้แลดูแปลกตาออกไป มีช่วงลำตัวยาวและเพรียวกว่าปลาทองหัวสิงห์สายพันธุ์อื่น ๆ ปลาทองปอมปอนที่นิยมมากที่สุดคือพันธุ์สีแดงไม่มีครีบหลัง สายพันธุ์ปอมปอนแบ่งออกเป็นปอมปอนหัวสิงห์ ปอมปอนออแรนดา ปลาทองสายพันธุ์นี้บ้านเราไม่ค่อยได้รับความนิยมแพร่หลายมากเท่าใดนัก สาเหตุอาจเป็นเพราะปลาสายพันธุ์นี้โดยมากมีทรวดทรงที่ไม่สวยงามเท่าปลาทองหัวสิงห์สายพันธุ์อื่นขณะเดียวกันเป็นปลาที่แพร่พันธุ์ได้ยาก และปลาที่เพาะพันธุ์ได้โดยมากเป็นปลาพิการเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงทำให้ปลาชนิดนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่นักเพาะพันธุ์ปลาระดับมืออาชีพ เนื่องจากเพาะแล้วไม่ค่อยคุ้ม</p><br /><br /><p></p></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-20783276162099425272008-06-30T09:38:00.010+07:002008-06-30T10:11:25.288+07:00ปลาหมอเซวาลุ่ม<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgv2xNB_a7POVghiVhWhFpM9G0Lj0prd46cfnptkExyni-4fdwBMA2wu1JHzRblAiuBkLgEYXhWwbwyCttFlDYp-jDxmPAi2BS5xbbq50zX2Uj1ozqAaeKYIuxkocDOizGeOVNXHWD-d1bn/s1600-h/sevalumgold_older.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5217502551080055346" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgv2xNB_a7POVghiVhWhFpM9G0Lj0prd46cfnptkExyni-4fdwBMA2wu1JHzRblAiuBkLgEYXhWwbwyCttFlDYp-jDxmPAi2BS5xbbq50zX2Uj1ozqAaeKYIuxkocDOizGeOVNXHWD-d1bn/s320/sevalumgold_older.jpg" border="0" /></a><br /><div>ปลาหมอเซวาลุ่มทอง เป็นปลาที่มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ รูปร่างกลมป้อม มีปลาหมอเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่มีรูปทรงแบบนี้ ลูกปลาขนาดเล็กๆจะมีสีเหลืองนวล อาจจะมีลวดลายจุดเหลือง ส้มประตามลำตัว ตะเกียบ และครีบก้นจะมีสีเหลืองอมส้มถึงแดง เมื่อปลาโตเต็มที่จุดเหลืองจะเข้มขึ้นเรื่อยๆจนถึงสีแดงลักษณะปลาหมอเซวาลุ่มทองที่มีจุดแดงบนเกล็ดนั้นเป็นลักษณะที่สวยงามมาก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วที่เราพบเห็นส่วนมากจะเป็นเซวาลุ่มแบบที่มีสีพื้นเป็นสีเหลืองเสียมากกว่าไม่มีจุดแดง ปลาชนิดนี้เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย กินอาหารสำเร็จรูปได้ สามารถเลี้ยงรวมกับปลาหมอจากอเมริกาใต้ อาทิ ปลาหมอเซวาลุ่มเขียว ปลาหมอช๊อกโกแลต </div><div><br />ถิ่นกำเนิดของปลาชนิดนี้อยู่ในลุ่มแม่น้ำอะเมซอนในทวีปอเมริกาใต้ในธรรมชาติสายพันธุ์ที่พบจะเป็นเซวาลุ่มเขียวว่ากันว่าสายพันธุ์ของเซวาลุ่มเขียวนั้นก็มีสายพันธุ์ย่อยๆลงไปอีก บางตัวจะออกเหลือบเขียวอย่างเด่นชัดในขณะที่บางตัวออกเพียงสีน้ำตาล</div><div> </div><div></div><div>ปลาหมอเซวาลุ่ม เป็นปลาหมอสีประเภทวางไข่จากอเมริกาใต้อีกชนิดหนึ่ง ที่แพร่หลายเข้ามาในบ้านเราเป็นเวลานานแล้วจัดเป็นปลาหมอสีที่มีนิสัยสุภาพเรียบร้อยไม่เกเรมากมายเมื่อเทียบกับปลาหมอชนิดอื่นๆ</div><div></div><div></div><div></div><div></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-37872879013760374682008-06-23T09:06:00.014+07:002008-06-23T09:43:44.373+07:00ปลาปอมปาดัวร์<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh1R_ilkhbosYif61c4UCTkmsnN9r7D540vFmv2nnR3-e9E1kmFh3l5ajXMaGiptLukFp4OVortwlwkGoiD3pSz_rpqGBcNwxk3bs7AhzuMc2ZktNahmKAb2XQ_qSFZ3iR7KRBGSL31B9Qg/s1600-h/q17-.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5214894354048067346" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh1R_ilkhbosYif61c4UCTkmsnN9r7D540vFmv2nnR3-e9E1kmFh3l5ajXMaGiptLukFp4OVortwlwkGoiD3pSz_rpqGBcNwxk3bs7AhzuMc2ZktNahmKAb2XQ_qSFZ3iR7KRBGSL31B9Qg/s320/q17-.jpg" border="0" /></a><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj24yvICCx8-Y8oyY1kJumLpz5mTmR2S1uJr0ZhNhRYQ4PSbGe99YnPkqU8AEBJPwrZW4rsPKq8YcDHvuuyuKTZGp22V0QUPjgMmLUekceoGINGoAZO3KGgvysz6LN1BHqZIhFvVBbcAaD1/s1600-h/q13-.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5214894186215296002" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj24yvICCx8-Y8oyY1kJumLpz5mTmR2S1uJr0ZhNhRYQ4PSbGe99YnPkqU8AEBJPwrZW4rsPKq8YcDHvuuyuKTZGp22V0QUPjgMmLUekceoGINGoAZO3KGgvysz6LN1BHqZIhFvVBbcAaD1/s320/q13-.jpg" border="0" /></a><span style="color:#cc33cc;"><strong> ปลาปอมปาดัวร์</strong></span><br /><br /><div><span style="font-family:arial;">ปลาปอมปาดัวร์เป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ได้ถูกนำมาเลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์จากประเทศต่างๆ จนในปัจจุบันมีปลาปอมปาดัวนับสิบๆสายพันธุ์ มีความสวยงามและสีสันแตกต่างกันออกไปและสวยกว่าพันธุ์ดั้งเดิมมาก สำหรับปลาปอมปาดัวพันธุ์ดั้งเดิมตามหลักสากลได้แบ่งออกเป็น </span></div><br /><div><span style="font-family:arial;">1. ปอมปาดัวร์ Symphysodon aequifasciata เป็นปลาปอมปาดัวร์ที่มีลักษณะเด่นคือ จะมีเส้นแถบสีดำจางๆพาดขวางบริเวณส่วนหัว ลำตัว และโคนหาง เป็นแนวตั้งรวมทั้งหมด 9 แถบด้วยกัน </span></div><br /><div><span style="font-family:arial;">2.ปอมปาดัวร์Symphysodon discus ปลาชนิดนี้จะมีเส้นแถบสีดำพาดขวางบริเวณลำตัวอยู่ 9 แถบเช่นเดียวกัน แต่จะมีลักษณะที่พิเศษกว่าชนิดแรก คือจะมีแถบสีดำอยู่ 3 แถบเป็นแถบขนาดใหญ่และสีดำเข้มอยู่ที่บริเวณหัว กลางลำตัวและโคนหาง </span></div><br /><div><span style="font-family:arial;">นอกจากชนิดพันธุ์ปลาตามหลักสากลดังที่ได้กล่าวมานี้แล้ว ปัจจุบันผู้เพาะพันธุ์ต่างก็พยายามศึกษา และมีการนำสายพันธุ์ปลาปอมปาดัวร์ชนิดต่างๆ มาทำการผสมข้ามพันธุ์กัน เพื่อให้ได้ลูกปลาที่มีลวดลายแปลกๆใหม่ๆ ชนิดแยกทางไม่ค่อยออกว่าบรรพบุรุษจากปลาปอมชนิดใดแน่ โดยลูกปลาพันธุ์ใหม่ส่วนใหญ่จะมีลวดลายสีสันสวยงามมาก และมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป ดังเช่น ปอมปาดัวร์ 7 สี ต้นบรรพบุรุษของปลาพันธุ์นี้คือ Green discus และ Blue discus โดยแต่เดิมที่เพาะกันจะเป็นปลาลายใหญ่ที่มีลวดลายคมชัดทั้งตัวเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาในระยะหลังจึงหันมานิยมปลาลายกลางและลายเล็กแทน ทั้งนี้ก็มีสาเหตุเพราะว่าปลาลายกลางและลายเล็กเวลาที่นำไปเลี้ยงย้อมสี เปอร์เซ็นต์การเกิดลวดลายบนตัวปลาจะดีกว่า โดยเฉพาะปลาลายใหญ่ที่ลวดลายไม่คมชัดหรือลวดลายไม่เต็ม อีกทั้งมักจะประสบปัญหาลายแตกออกจนเลอะ ภาษนักเลี้ยงปลาเรียกว่า "เบรอ"นั่นเอง</span></div><br /><br /><div></div></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6024350160152112301.post-65738762381262268492008-06-17T15:40:00.000+07:002008-06-17T15:46:54.782+07:00ปลาการ์ตูนส้มขาว<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhQIibvngaD8AbAmJaHPyaYyidePLzlA-M3cObwF53Ksqq3H62lSvfOju9fowQplc1AKyj6k9r3savQl8sY-WaPRqqrAXzvAd42XbrR2XcQ2iNqG7mZ_YFTHMGZzOHM4p9NwTc0XnhPHDQ1/s1600-h/ane4.gif"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5212768903063502802" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhQIibvngaD8AbAmJaHPyaYyidePLzlA-M3cObwF53Ksqq3H62lSvfOju9fowQplc1AKyj6k9r3savQl8sY-WaPRqqrAXzvAd42XbrR2XcQ2iNqG7mZ_YFTHMGZzOHM4p9NwTc0XnhPHDQ1/s320/ane4.gif" border="0" /></a><br /><div>ลำตัวมีสีส้มเข้ม มีแถบสีขาว 3 แถบ พาดบริเวณส่วนหัว ลำตัวและบริเวณหาง ขอบของแถบสีขาวเป็นสีดำ ขอบนอกของครีบเป็นสีขาวและขอบในเป็นสีดำ อาศัยในที่ลึก ตั้งแต่ 1-15 เมตร ขนาดตัวโตที่สุดประมาณ 10 เซนติเมตร อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลชนิด Heteractis magnifica และ Stichodactyla gigantea เป็นต้น ในดอกไม้ทะเลแต่ละกออาจพบปลาการ์ตูนชนิดนี้อยู่ด้วยกัน 6-8 ตัว ปลาการ์ตูนส้มขาวพบได้บ่อยที่สุดในทะเลอันดามัน อ่าวไทยพบได้ที่เกาะโลซิน จังหวัดนราธิวาส อาศัยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่</div><br /><div></div>กระต่ายhttp://www.blogger.com/profile/06443929466926414298noreply@blogger.com0